วันอาทิตย์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ข้อสอบปลายภาค

สอบปลายภาค
1.ความหมายคำว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญ  พระราชบัญญัติ  พระราชกำหนด   พระราชกฤษฎีกา  เทศบัญญัติ เหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร อธิบาย
ตอบ  กฎหมายรัฐธรรมนูญ คือ  กฎหมายสูงสุดที่ใช้ในการปกครองประเทศ เป็นต้นแบบให้กับ กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ ฉบับอื่น ๆ ที่เรียกว่ากฎหมายลูกพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คือบทกฎหมายที่ ใช้บังคับอยู่เป็นประจำตามปรกติ เพื่อวางระเบียบบังคับความประพฤติของบุคคลรวมทั้งองค์กรและเจ้าหน้าที่ของ รัฐ เป็นบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่มีฐานะสูงกว่าบทกฎหมาย  อื่น ๆ นอกจากรัฐธรรมนูญ ก่อนประกาศใช้บังคับ พระราชกำหนดพระราชกำหนด หรือรัฐกำหนด ใช้ได้ทั้งพระราชกำหนดและรัฐกำหนด; หรือ royal ordinance สำหรับพระราชกำหนด) เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นโดยฝ่ายบริหารในสถานการณ์อันมีความจำเป็นรีบด่วนเพื่อประโยชน์แห่งรัฐแล้วแต่กำหนดไว้ในกฎหมายแม่ของแต่ละประเทศ พระราชกำหนดมีอำนาจบังคับเช่นพระราชบัญญัติอันตราขึ้นโดยฝ่ายนิติบัญญัติ
พระราชกฤษฎีกา คือ บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญพระราชบัญญัติ หรือพระราชกำหนด เพื่อใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี มีศักดิ์ต่ำกว่ารัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ ประมวลกฎหมาย และพระราชกำหนดพระราชกำหนด หรือรัฐกำหนด ใช้ได้ทั้งพระราชกำหนดและรัฐกำหนด; หรือ royal ordinance สำหรับพระราชกำหนด) เป็นกฎหมายที่ตราขึ้นโดยฝ่ายบริหารในสถานการณ์อันมีความจำเป็นรีบด่วนเพื่อ ประโยชน์แห่งรัฐแล้วแต่กำหนดไว้ในกฎหมายแม่ของแต่ละประเทศ พระราชกำหนดมีอำนาจบังคับเช่นพระราชบัญญัติอันตราขึ้นโดยฝ่ายนิติบัญญัติพระราชกฤษฎีกา คือ บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญพระราชบัญญัติ หรือพระราชกำหนด เพื่อใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี มีศักดิ์ต่ำกว่ารัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ ประมวลกฎหมาย และพระราชกำหนด
เทศบัญญัติ คือ   กฎหมายที่เทศบาลออกเพื่อใช้บังคับในเขตเทศบาลทั้งนี้อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติเทศบาล พศ. 2496 ผู้เสนอร่างเทศบัญญัติ ได้แก่ นายกเทศมนตรี สมาชิกสภาเทศบาล หรือราษฎรผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเทศบาลตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ.2542
2.กฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ใช้ในการปกครองประเทศ ปัจจุบันเป็นอย่างไร  ในการกำหนดออกกฎหมายสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดของการประกาศใช้ เป็นอย่างไร หากเราไม่มีรัฐธรรมนูญนักศึกษาคิดว่าจะเป็นอย่างไร อธิบาย
ตอบ  ปัจจุบันมีการให้อำนาจฝ่ายบริหารโดยไม่มีการถ่วงดุล ทำให้ฝ่ายบริหารมีความเฉียบขาดในการจัดการเรื่องต่าง ๆ ด้วยตนเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดความฉับไวในการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน แต่ก็นำมาซึ่งการใช้อำนาจรัฐในทางที่ผิดโดยมีการสั่งลงโทษประหารชีวิตผู้บริสุทธิ์ไปแล้วเป็นจำนวนมาก ในการกำหนดออกกฎหมายสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดของการประกาศใช้ควรมีกฎเกณฑ์ มีกติกา ระเบียบวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละสังคมเป็นเครื่องยึดถือปฏิบัติ เพื่อให้สังคมมีระเบียบ ทำให้เกิดความสงบเรียบร้อยและอยู่อย่างสันติสุข ซึ่งกฎเกณฑ์หรือกติกาของสังคมดังกล่าวได้แก่รัฐธรรมนูญและกฎหมายต่าง ๆ ที่ใช้บังคับอยู่ในสังคม หากเราไม่มีรัฐธรรมนูญข้าพเจ้าคิดว่าจะไม่มีกฎเกณฑ์ มีกติกา ระเบียบวัฒนธรรมและประเพณีของแต่ละสังคมเป็นเครื่องยึดถือปฏิบัติ
3.ในสภาพปัจจุบันการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 มีนักวิชาการต้องการจะ   แก้ไขท่านคิดว่าควรที่จะแก้ไขหรือไม่ประเด็นใดอธิบายให้เหตุผล
ตอบ  ไม่เห็นด้วย เพราะมาตรา 112ผู้ใดหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จ ราชการแทนพระองค์ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปีกษัตริย์คือผู้ที่ปกครองประเทศไม่สมควรที่ใครผู้ใดจะมาดูหมิ่นเพราะที่ผ่าน ๆ มาท่านเป็นพ่อที่ดีของประชาชนมาโดยตลอดไม่เคยคิดทำร้ายลูกมีแต่ลูกที่คิดทำร้ายพ่อไม่มีใครจะมาล้มเจ้าได้ความดีย่อมชนะความชั่วร้ายได้เสมอ
4.การที่มวลมหาประชาชนมีความไม่เห็นด้วยกับการเลือกตั้งและให้รัฐบาลลาออกจากการรักษาการและจะปฏิรูป ท่านในฐานะติดตามข่าวสารบ้านเมือง  ขณะนี้ ท่านเห็นด้วยหรือไม่ ให้ยกเหตุผลประกอบคำอธิบาย
ตอบ    เห็นด้วยเพราะ บ้านเมืองของเราขณะนี้  ตกอยู่ในสภาพ  คนดีถูกทำลาย  คนร้ายมีอำนาจ”  มวลมหาประชาชนที่ออกมาต่อสู้อยู่ในท้องถนนจำนวนมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนในบ้านเมืองของเรานั้น  ก็เพราะต้องการหาทางออกของประเทศชาติบ้านเมือง  ไปสู่สิ่งที่ดีกว่าสภาพการณ์ปัจจุบันและถ้าเกิดการเลือกตั้งใหม่ดิฉันคิดว่ามีแนวโน้มจะได้รัฐบาลชุดเดิมมาทำงานอีกถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้จักจบจักสิ้นคนร้ายลอยนวลส่วนคนดีไม่มีที่จะอยู่หรือเราเองอาจจะไม่มีที่จะอยู่เหมือนกันซึ่งไม่ต่างกับคำว่าขายชาติบ้านเมืองหรือนอนกจากว่าห้ามรัฐบาลชุดเดิมลงเลือกตั้งทั้งตระกูลปัญหาความวุ่นวายก็จะมีทางออกที่ดีมากกว่าที่ต้องมาเขนฆ่ากันเอง
5.การเลือกตั้งล่วงหน้ามีข้อคัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับมวลมหาประชาชนและ ประชาชนที่รัฐบาลจัดตั้ง(คนเสื้อแดง)และนำประชาชนชาวเขมรเพื่อนำมา เข่นฆ่าคนไทยท่านเห็นด้วยกับรัฐบาลหรือไม่ ยกเหตุผลประกอบคำอธิบาย
ตอบ  ไม่เห็นด้วย เพราะการเลือกตั้งล่วงหน้ามีข้อคัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับมวลมหาประชาชน เรื่องหรือปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ในประเทศไม่สมควรให้ประเทศใด ๆ ทั้งสิ้นมาเกี่ยวข้องและไม่เป็นธรรมกับมวลมหาประชาชนเพื่อโยนความผิดให้กับประเทศอื่นทั้งที่คนบงการคือคนเดียวกันกับคนที่ถูกฆ่านี้หรือคนที่จะยึดหลักประชาธิปไตยและคนที่เป็นผู้นำของประเทศ
6.พระราชบัญญัติการศึกษาเปรียบเสมือนรัฐธรรมนูญการศึกษา ท่านเห็นด้วย กับประเด็นนี้หรือไม่ อธิบายให้เหตุผล
ตอบ  เห็นด้วย กับพระราชบัญญัติการศึกษาเปรียบเสมือนรัฐธรรมนูญการศึกษา  เพราะพระราชบัญญัติการศึกษาเป็นส่วนหนึ่งที่ร่างขึ้นมาโดยใช้รัฐธรรมนูญการศึกษา เป็นหัวใจสำคัญและเป็นแนวทางในการร่างและเขียนพระราชบัญญัติการศึกษา เพื่อนำมาประกาศใช้และเพื่อพัฒนาคนไทยทุกคนให้มีการศึกษาทุกคนอย่างทั่วถึงและต่อเนื่อง ตามจุดมุ่งหมายของการพัฒนาศักยภาพคนไทย
7.ในการจัดการศึกษานักศึกษาคิดว่ามีความมุ่งหมายและหลักการจัดการใน  การจัดการศึกษา อย่างไร
ตอบ ความมุ่งหมายและหลักการจัดการในการจัดการศึกษา จุดมุ่งหมายของการจัดการศึกษาตามมาตรานี้เป็นการกำหนดจุดมุ่งหมายทั่วไปที่เป็นอุดมการณ์ของการศึกษา หรือปรัชญาการศึกษาที่มุ่งพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ในมิติต่างๆ ที่ถือว่าสำคัญทางการศึกษา
หลักการสำคัญของการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติฉบับนี้กำหนดไว้ 3 ข้อ ซึ่งจำเป็นต้องขอขยายความดังนี้
             1. เป็นการศึกษาตลอดชีวิตสำหรับประชาชน
             2. ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา
             3. การพัฒนาสาระและกระบวนการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
8.มีบุคคลหนึ่งเข้าไปเป็นครูสอนหนังสือในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่เป็นประจำกรณีมิได้รับการบรรจุเป็นครู หากพิจารณาตามกฎหมายถ้าผิดกฎหมายท่านคิดว่าจะถูกลงโทษอย่างไร   หากไม่ผิดกฎหมายท่านคิดว่าจะ มีวิธีการทำอย่างไร
ตอบ   ไม่ผิด เพราะ ในพระราชบัญญัติสภาครูและบุคลากรทางศึกษา พ.ศ.2546 ได้กำหนดไว้ว่าห้ามมิให้ผู้ใดประกอบวิชาชีพควบคุม โดยไม่ได้รับใบอนุญาตตามพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่กรณีอย่างใดอย่างหนึ่ง ดังต่อไปนี้
                (1) ผู้ที่เข้ามาให้ความรู้แก่ผู้เรียนในสถานศึกษาเป็นครั้งคราวในฐานะวิทยากรพิเศษทางการศึกษา
                (2) ผู้ที่ไม่ได้ประกอบวิชาชีพหลักทางด้านการเรียนการสอนแต่ในบางครั้งต้องทำหน้าที่สอนด้วย
                (3) นักเรียน นักศึกษา หรือผู้รับการฝึกอบรมหรือผู้ได้รับใบอนุญาตปฏิบัติการสอน ซึ่งทำการฝึกหัดหรืออบรมในความควบคุมของผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาซึ่งเป็นผู้ให้การศึกษาหรือฝึกอบรม ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด
                (4) ผู้ที่จัดการศึกษาตามอัธยาศัย
                (5) ผู้ที่ทำหน้าที่สอนในศูนย์การเรียนตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ หรือสถานที่เรียนที่หน่วยงานจัดการศึกษานอกระบบและตามอัธยาศัย บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ โรงพยาบาล สถาบันทางการแพทย์ สถานสงเคราะห์ และสถาบันสังคมอื่นเป็นผู้จัด
                (6) คณาจารย์ ผู้บริหารสถานศึกษา และผู้บริหารการศึกษาในระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาทั้งของรัฐและเอกชน
                (7) ผู้บริหารการศึกษาระดับเหนือเขตพื้นที่การศึกษา
                (8) บุคคลอื่นตามที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด

ซึ่งผู้ที่เข้าไปสอนอาจจะกระทำในกรณีใดกรณีหนึ่งซึ่งถูกต้องตามกฏหมาย ซึ่งก็ไม่ต้องแก้ไขอะไร แต่หากว่าอยากจะเข้าไปสอนในสถานศึกษาเป็นกรณีประจำก็ควรจะไปสอบบรรจุให้เรียบร้อยเพื่อจะได้ไม่เป็นปัญหาในภายหลัง
9.หากนักศึกษาต้องการสอบบรรจุเป็นครูผู้ช่วยจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
ตอบ คุณสมบัติผู้ที่จะเป็นข้าราชการครูได้  สอบบรรจุครู
   บุคคลที่ประสงค์จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูได้นั้น จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
         1) เป็นผู้มีคุณสมบัติทั่วไปตามมาตรา 30 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางศึกษา พ.ศ.  2547  และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2551  ดังต่อไปนี้
            1.  สัญชาติไทย
            2.  มีอายุไม่ต่ำกว่าสิบแปดปีบริบูรณ์
            3.  เป็นผู้เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข  ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
            4.  ไม่เป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  สมาชิกสภาท้องถิ่น  หรือผู้บริหารท้องถิ่น
            5.  ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ  หรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ  หรือเป็นโรคตามที่กำหนด ในกฎ ก.ค.ศ.
             6.  ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการ  ถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามพระราชบัญญัตินี้  หรือตามกฎหมายอื่น หรือถูกสั่งพัก  หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในกฎหมายองค์กรวิชาชีพนั้น ๆ
             7. ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดีสำหรับการเป็นผู้ประกอบวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษา
             8.  ไม่เป็นกรรมการบริหารพรรคการเมือง หรือเจ้าหน้าที่ในพรรคการเมือง
             9.  ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
           10. ไม่เป็นผู้เคยต้องโทษจำคุก  โดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก  เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
           11. ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก  ปลดออก  หรือไล่ออกจากรัฐวิสาหกิจ  องค์การมหาชน  หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ  หรือองค์การระหว่างประเทศ
           12. ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก  ปลดออก  หรือไล่ออกเพราะการกระทำผิดวินัยตามพระราชบัญญัตินี้  หรือตามกฎหมายอื่น
           13. ไม่เป็นผู้เคยกระทำทุจริตในการสอบเข้ารับราชการหรือเข้าปฏิบัติงานในหน่วยงานของรัฐ  และ
         2)  เป็นผู้ได้รับวุฒิไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีทางการศึกษา  หรือทางอื่นที่ ก.ค.ศ. กำหนดเป็นคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ในสาขาวิชาเอกที่กำหนดและมีความรู้พื้นฐานทางวิชาชีพครูจำนวนรวมแล้วไม่น้อยกว่า 15  หน่วยกิต  สำหรับผู้สำเร็จการศึกษาก่อนปี 2536 และ  18  หน่วยกิตสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ปี 2536  เป็นต้นมา  และ
   3)  เป็นผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู  หรือหนังสือรับรองสิทธิการเป็นผู้มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูซึ่งออกให้โดยคุรุสภา  ถ้าไม่มีผ่อนผันให้สมัครสอบแข่งขันได้  โดยมีเงื่อนไขว่าต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูก่อนวันบรรจุและแต่งตั้งเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครู 
  4)  ไม่เป็นพระภิกษุ หรือสามเณร นักพรต  นักบวช
          5) ในกรณีที่ผู้สมัครมีคุณสมบัติไม่ตรงตามที่กำหนด  ผู้สมัครรายใดปกปิด หรือแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ  ที่เจ้าหน้าที่รับสมัครไม่สามารถตรวจสอบได้ในขณะรับสมัคร  หากตรวจสอบภายหลังพบว่าผู้สมัครผู้ใดเป็นผู้ขาดคุณสมบัติตามที่กำหนด  ให้ถือว่าบุคคลนั้นเป็นผู้ขาดคุณสมบัติที่จะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งในตำแหน่งดังกล่าว  หรือหากผู้ใดได้รับการบรรจุและแต่งตั้งแล้ว ให้ผู้มีอำนาจสั่งบรรจุและแต่งตั้งเพิกถอนคำสั่งนั้น  โดยพลัน  และจะเรียกร้องสิทธิใด ๆ มิได้ทั้งสิ้น
  การสรรหาบุคคลเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครู  สอบบรรจุครู
          บุคคลที่ประสงค์จะเข้ารับราชการเป็นข้าราชการครูได้นั้น จะต้องมีผ่านการสรรหาดังนี้
           1. การสอบแข่งขัน โดยการใช้วิธีการสอบข้อเขียน และการสอบสัมภาษณ์ ผู้สอบแข่งขันได้จะได้รับการบรรจุและแต่งตั้งตามลำดับที่ที่สอบแข่งขันได้
           2. การคัดเลือก เป็นการสรรหาบุคคลโยวิธีการคัดเลือกบุคคลตามความสามารถ โดยไม่ต้องสอบแข่งขัน เช่น กรณีได้รับทุน กรณีเป็นสาขาที่ขาดแคลน กรณีที่เข้าร่วมโครงการเพชรในตม คุรุทายาท ครูพันธ์ใหม่ ครู 5ปี  ครู สควค. พนักงานราชการ เป็นต้น
          3. ข้าราชการอื่นสามารถโอนเป็นข้าราชการครูโดยการสอบแข่งขัน
          4. เป็นข้าราชการครูสังกัดส่วนราชการนั้นๆก็สามารถไปสอบแข่งขันเพื่อเป็นครูได้ กรณีนี้หากเป็นครูผู้ช่วยจะต้องบรรจุตำแหน่งสอบแข่งขันคือครูผู้ช่วย โดยต้องทดลองงานต่อ  หากเป็นตำแหน่งครู จะต้องบรรจุในตำแหน่งครู (โดยอ.ก.ค.ศ.ส่วนราชการจะเปลี่ยนตำแหน่งที่ใช้สรรหาจากครูผู้ช่วยให้เป็นตำแหน่งครูก่อนแล้วค่อยบรรจุผู้ที่เป็นครูสอบแข่งขันได้ในตำแหน่งครู โดยไม่ต้องเป็นครูผู้ช่วย) แต่ทั้งนี้ต้องขออนุญาตผู้บังคับบัญชาไปสอบแข่งขัน
10.ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นว่าเมื่อเรียนวิชานี้ นักศึกษาได้อะไรบ้าง  ครูผู้สอนวิชาชีพโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Weblog มีความเหมาะสม และเป็นไปได้อย่างไร  วิจารณ์แสดงความคิดเห็น และนักศึกษาคิดว่าตนเองจะได้เกรดอะไร

ตอบ  เป็นการสอนในรูปแบบใหม่ซึ่งไม่เคยเจอที่ไหนมาก่อนสามารถค้นคว้าศึกษาด้วยตนเองและเรียนได้โดยไม่ต้องเข้าห้องเรียนในบางครั้งได้ดีทีเดียว แต่ก็มีปัญหาสำหรับดิฉันบ้างเพราะดิฉันต้องไปกลับบ้านทุกวันและที่บ้านไม่มีอินเทอร์เน็ตเลยอยากกับการค้นคว้าหรือทำงานส่งเรื่องอื่นก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร  และเกรดที่ตัวเองคาดว่าจะได้ ใคร ๆ ก็อยากได้ A กันทั้งนั้นเป็นไปได้ก็อยากได้ A ค่ะแต่ตามเนื้อผ้าแล้ว B ก็หรูแล้วค่ะ